ยังเป็นการใช้สื่อสารผ่านทาง Social media แบบไม่เป็นทางการค่ะ ไม่ได้มีการระบุไว้ในแผนงานของโครงการวิจัย แต่มีการใช้เพื่อติดต่อสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลเชิงการประชาสัมพันธ์ นัดหมายการประชุม หรือติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคุลค่ะ
โดยมีการใช้ไลน์กลุ่ม (Group Line Application) ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคณะกรรมการที่ปรึกษาชุมชน (CAB) และ Stakeholder กลุ่มภาคีเครือข่ายต่างๆในพื้นที่ สำหรับนัดหมายการประชุมและอัพเดตข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงวิชาการและแนวทางการปฏิบัติงานต่างๆ ส่วนการติดต่อสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลโครงการส่วนใหญ่จะใช้พูดคุยผ่าน Line, Facebook Messager, Beetalk ที่เป็นช่องทางระหว่างบุคคลเท่านั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งข้อมูลที่ให้ผ่านทาง Social media นั้น จะต้องไม่เกินขอบเขตที่เปิดเผยได้เป็นข้อมูลเชิงประชาสัมพันธ์ตามแผ่นพับ (Brochure) หรือการให้ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย ซึ่งการป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการใช้การสื่อสารผ่านทาง Social media ผู้ใช้จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หากอาสาสมัครต้องการข้อมูลเพิ่มเติม จะนัดหมายให้เข้ามาที่ศูนย์ (drop in) เพื่อพูดคุยรายละเอียดกันมากกว่าค่ะ เพราะเราจะได้เช็คความเข้าใจของผู้ได้รับข้อมูลด้วยค่ะว่าเข้าใจถูกต้องหรือไม่
ในส่วนตัวคิดว่าข้อดีของการใช้การสื่อสารผ่านทาง Social media คือ ผู้สนใจได้รับข้อมูลที่เพียงพอ ทั้งรูปภาพ ข้อความรายละเอียด พิกัดสถานที่ (share location) ก่อนตัดสินใจเข้ามาที่ศูนย์หรือเข้าร่วมโครงการ และข้อเสียคือการสื่อสารผ่านตัวอักษรอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดได้ง่ายหรือเข้าใจไม่ตรงกัน และอาจจะมีการส่งข้อมูลผิดๆต่อกันออกไปแบบขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วค่ะ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นโครงการวิจัยอาจจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวลือที่ผิดพลาด และอาจเกิดความไม่ไว้วางใจต่อชุมชนได้ค่ะ
โศภิสุดา (มายด์ค่ะ)


